ประวัติของ Saran

"SARAN" ชื่อจริงชื่อว่า สรัล มณีโชติ และชื่อเล่นว่า โอม โดยเรื่องราวการแร็ปของ SARANก็เริ่มที่ตอนเขาอายุ 11 ปี พ่อของ SARAN นั้นเป็นทหารเรือและเมื่อมีการกินเลี้ยงหรือสังสรรค์กันในกองพ่อของเขาก็มักจะได้ขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีอยู่บ่อยๆ และพ่อของเขาก็ได้สอนเขาเกี่ยวกับการร้องเพลง ไม่ว่าจะเป็นการจับไมค์ การยืนบนเวทียังไงให้คนเห็น ดังนั้นพ่อของ SARAN จึงเป็นคนที่มีส่วนสำคัญมากที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จ

การแร็ปครั้งแรกของ SARAN เริ่มที่โปรแกรม TalkTalk โดยเขาได้เข้าไปอยู่ในห้องที่มีการแร็ปกัน เป็นแร็ปแนวๆดิสกันหรือหยามกัน SARAN ก็ได้เข้าไปแร็ปในห้องนั้น แต่คนในห้องก็ไม่ค่อยชอบที่เขาแร็ปสักเท่าไหร่ ต่อมาเขาได้อัดเพลงแรกโดยใช้โปรแกรม TalkTalk และเขาก็ได้ส่งเพลงนี้ไปที่รายการหนึ่งที่ชื่อว่า DISSVAGOE และนี่ก็เป็นการอัดเพลงแรกของ SARAN
ในช่วง ป.6 SARAN ก็เริ่มที่จะเกเร แม่ของเขาเลยส่งเขาไปเรียนที่ โรงเรียนประจำอัสสัมชัญศรีราชา ช่วงที่เรียนอยู่ SARAN ก็ได้ปล่อยเพลงมาที่ชื่อว่า WHY แต่กระแสตอบรับก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก และเขายังโดนผู้คนในโรงเรียนแซะเป็นจำนวนมาก แต่เขาก็ไม่ได้ยอมแพ้และปล่อยเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ SARAN ปล่อยเพลงไปสักระยะหนึ่งแล้วเขาก็ได้ไปทำการแข่งแร็ปในรายการเล็กๆที่ต่างจังหวัดหลายรายการ และลงแข่งในรายการใหญ่อย่าง RAP IS NOW
ที่มารูปภาพคลิก

ต่อมา SARAN ได้ลงสมัครรายการ The Rapper 2 ตอนที่เขาอายุ 13 ปี แต่เส้นทางการดำเนินชีวิตของเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะว่าหลังจากที่เขาได้ลงไปสมัครไปไม่นานนัก เขาก็ได้โดนไล่ออกจากโรงเรียน เนื่องจากเวลาเรียนเขาก็จะโดดเรียนอยู่บ่อยๆ และตอนนั้นเขาก็ได้ไปลองสูบบุหรี่และลองเสพกัญชา SARAN จึงโดนไล่ออกจากโรงเรียน แต่ชีวิตของ SARAN ก็ไม่ได้แย่สะทีเดียว เพราะว่าเขาได้แข่ง The Rapper 2 จนได้เข้ารอบชิง แต่น่าเสียดายที่เขาพลาดโอกาสคว้าแชมป์ในครั้งนี้ไป หลังจากนั้นเขาก็ได้กลับมาเกเรและห่างหายไปจากการแร็ป แต่พอเขาเกเรไปสักพักแล้ว เขาก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ชอบที่ตัวเองเกเรจึงกลับมาจริงจังกับการแร็ปต่อ จากนั้น SARAN ก็ได้กลับมาสมัครรายการ The Rapper 2020 CIVIL WAR อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับ The Rapper ครั้งก่อนเพราะครั้งนี้ SARAN นั้นได้คว้าถ้วยแชมป์ไป


พอแข่งเสร็จ SARAN ก็ได้กลับไปเรียนแต่เขาก็พบว่าเขาก็ไม่ค่อยชอบระบบการศึกษาสักเท่าไหร่นักจึงออกมาจากโรงเรียน เมื่อออกจากโรงเรียนมา SARAN ก็ได้รวบรวมเพื่อนเก่าๆของเขาแล้วมาตั้งแก๊งที่ชื่อว่า"DIEOUT"และพวกเขาก็มักที่จะทำเพลงร่วมกันอยู่บ่อยๆ อย่างเช่นเพลง ACADEMY

   "SARAN" ตอนนี้เป็นแร็ปเปอร์ที่มาแรงมากและเขาก็ยังมีแฟนคลับใหม่ๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเมื่อเวลาแร็ปเขาก็จะแร็ปเนื้อหาที่กินใจผู้ฟังและเขาก็มักจะปล่อยเพลงอย่างต่อเนื่องเสมอต้นเสมอปลาย จากที่ผมได้เล่าไปเราก็จะได้เห็นว่า SARAN เขาเปลี่ยนตัวเองไปอย่างมาก จากเด็กที่เกเรเหลวไหลกลายเป็น Rapper ที่สามารถทำเงินได้จากการแร็ปอย่างมหาศาล

ผลงานของ SARAN
  • 2005 (17 Years) / CANNABIS
  • GET IT ALL
  • ไม่ต้องเสือก
  • 11 นาฬิกา
  • FAKE LOVE
  • Around The World
  • เธอทำให้ฉันกลายเป็นเด็ก 
  • What's Your Name
  • DIEOUT CULTURE
  • เปลี่ยน
  • ไม่พอสำหรับความรัก
  • Family (ครอบครัว)
  • You with me (My Number 8)
  • สรัล
  • รักใครไม่เป็น
  • Today's mood
  • How Are You
  • ไปจบกับเขาก่อน
  • ลืมแทบไม่ไหว
  • อยู่กับฉันก่อน
  • ชีวิตคือการเดินทาง
  • ลาลับไป
  • LEAN LOVER
  • MY MOON
  • คนเซอร์ๆ
  • ใจพัง
  • Anniversary (สุขสันต์วันครบรอบ)
  • เดินมาส่ง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://music.trueid.net/th-th/detail/rRlJlaMjLaDQ
เรียบเรียงโดย จักรพงศ์ ผลใหม่



เรื่อง ประวัติAllen Iverson

Allen Iverson

ที่มารูปภาพ คลิก
 Allen Iverson เด็กหนุ่มผิวสีร่างเล็กเกิดมาในครอบครัวฐานะยากจนทำให้เขาต้องอาศัยอยู่ย่านสลัม
ของมลรัฐ Virginia เพราะพ่อของเขาต้องเดินเข้า ๆ ออก ๆ คุกเป็นว่าเล่น Allen Iverson มีเพียง
แม่ที่คอยดูแลแถมต้องพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อให้ครอบครัวของเขาได้ย้ายไปอยู่บ้านพักเคหะ 
ที่ซึ่งความเป็นอยู่ดีมากยิ่งขึ้น
ที่มารูปภาพ คลิก

  เหตุการณ์ในวัยเด็กจากการที่ต้องเห็นพ่อถูกจับกุมต่อหน้าต่อตาอยู่บ่อยครั้ง เขาจึงปฎิฎาณกับตัวเองว่าจะต้องเอาชีวิตของตัวเองออกจากชีวิตตรงจุดนี้ให้จงได้ด้วยการเล่นกีฬา Iverson จึงพยายามเล่นทั้งอเมริกาฟุตบอลอยากหนักในช่วงแรก ทว่าแม่ของเขายอมทำงานหนักเพื่อซื้อรองเท้าAir Jordanให้กับ Iverson เพื่อจูงใจให้เขาสนใจในกีฬาบาสเก็ตบอลควบคู่กันไป เนื่องจากแม่ของ Iverson ไม่ค่อยมีเวลาให้เขาจึงต้องไปอาศัยอยู่บ้านของเพื่อนที่ชื่อ Jamie Rogers อยู่บ่อยครั้งทั้งคู่สนิทกันมากจนได้ที่มาของชื่อเล่นว่า Bubba Chuck 
ที่มารูปภาพ คลิก

Allen Iverson ได้เข้าเรียนที่โรงเรียน Bethel High School ซึ่งที่นั่นเขาได้ฉายแววความโดดเด่นและพรสวรรค์ด้านกีฬาออกมาอย่างเต็มเปี่ยม เพราะเลือกเล่นกีฬายอดนิยมทั้งสองประเภท คือ อเมริกันฟุตบอลในตำแหน่งควอเตอร์แบค โดยเขาได้รับเลือกให้เป็นนักกีฬาระดับชั้นมัธยมยอดเยี่ยมประจำปี และได้ถูกรับเลือกให้เป็นรางวัลนักกีฬาบาสเก็ตบอลยอดเยี่ยมประจำปีสองสมัยซ้อน

ที่มารูปภาพ คลิก

นอกจากจะทำผลงานของตัวเองได้ยอดเยี่ยมแล้ว เขายังพาทีมชนะระดับประเทศ ทำให้ชื่อเสียงของ Allen Iverson โด่งดังไประดับประเทศในฐานะดาวรุ่งดวงใหม่แห่งวงการกีฬาเมืองมะกัน ชีวิตของ Iverson เหมือนจะมีอนาคตสดใสรออยู่ เหมือนกับที่เขาหวังเอาไว้ในวัยเด็ก แต่แล้วเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาลก็ได้มาถึง

ที่มารูปภาพ คลิก

ในปี 1993 ขณะที่หลาย ๆ มหาวิทยาลัยกำลังตามจีบ พร้อมยื่นทุนการศึกษาให้ Allen Iverson แต่แล้วชีวิตของเขาก็ต้องมาวิ่งชนตอให้อย่างจัง เมื่อดันไปอยู่ในลานโบว์ลิ่งและถูกกล่าวหาว่าเป็นคนก่อเหตุชุลมุน ทำให้โดนดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกาย ด้วยความโด่งดังของ Iverson คดีนี้กลายเป็นจุดสนใจ และด้วยเหตุจูงใจเรื่องเหยียดเชื้อชาติ เขาเหมือนเป็นแพะในเหตุการณ์นี้เต็ม ๆ เพียงเพราะเขาเป็นดาวเด่นและฝ่ายโจทย์สามารถจดจำใบหน้าของเขาได้ ซึ่งอันที่จริงแล้ว เพื่อน ๆ ของ Iverson ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้กล่าวว่า Iverson ได้ปลีกตัวออกมาตั้งแต่ตอนที่เกิดเหตุแล้ว เพราะกลัวจะส่งผลกระทบต่อการเป็นนักกีฬาของเขา

ที่มารูปภาพ คลิก

ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าด้วยวัยเพียง 17 ปี Allen Iverson ถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกแบบเดียวกับผู้ใหญ่เป็นระยะเวลา 15 ปี แม้จะพยายามยื่นขออุทธรณ์ต่าง ๆ ก็ตาม จากนักกีฬาอนาคตพันล้าน กลายเป็นขี้คุกวัยกระเตาะในพริบตา

หลังถูกคุมตัวเป็นระยะเวลา 5 เดือน มีหลาย ๆ คนพยายามออกมาเดินประท้วงผลการตัดสินของศาลว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ แต่ก็ไม่เกิดผลใด ๆ กระทั่งผู้สื่อข่าวที่ชื่อ Tom Brokaw ได้ขอเข้าไปทำข่าว Iverson ในคุก ทำให้คดีนี้กลายเป็นจุดสนใจระดับประเทศ จนผู้ว่าการรัฐได้พิจารณาลดหย่อนผ่อนโทษมอบอิสรภาพให้เขาออกมาใช้ชีวิตปกติดังเดิม

ที่มาของรูปภาพ คลิก

ทว่าการกลับมาของ Allen Iverson ก็ไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น เมื่อไม่มีมหาวิทยาลัยไหนต้องการตัวเองอีกต่อไป อนาคตของเขาเพียงแค่จะได้รับการศึกษายังแทบว่าริบหรี่ อย่าพูดถึงการเล่นกีฬาเลยด้วยที่เหมือนจะดับวูบลง แต่ทันใดแม่ของเขาได้ไปอ้อนวอนต่อโค้ช John Thompson ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนมหาวิทยาลัย Georgetown Hoyas เพื่อโน้มน้าวให้เชื่อว่า Iverson จะไม่ทำตัวมีปัญหาอีก

ที่มารูปภาพ คลิก

ซึ่งโค้ช John Thompson ถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากต่อชีวิตของ Allen Iverson แม้จะมีพรสวรรค์อันเป็นเลิศจนทำให้เขาได้รางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของสาย Big East และผู้เล่นทำแต้มเฉลี่ยสูงสุด แต่เขาก็ยังคงแอบไปก่อเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามประสาวัยรุ่นทั่วไป โชคดีที่ได้โค้ช Thompson คอยเตือนสติ ตบให้อยู่ในลู่ทางที่ถูกต้องของการเป็นนักกีฬาอาชีพ

ที่มารูปภาพ คลิก

หลังจากเรียนมหาวิทยาลัยได้เพียงสองปี Allen Iverson ได้ตัดสินเข้าดราฟท์ NBA ด้วยจากผลงานอันยอดเยี่ยมในระดับ NCAA จึงไม่ใช่เลือกยากที่เขาจะได้รับเลือกให้เป็นดราฟท์อันดับ 1 ซึ่งถูกเลือกโดยทีม Philadelphia 76ers

ที่มารูปภาพ คลิก

Allen Iverson ตอบแทนทุกความไว้วางใจด้วยการคว้าตำแหน่ง Rookie of the Year พร้อมช็อตประวัติศาสตร์ที่แฟนบาสทั่วโลกต่างไม่เคยลืม ด้วยการทำท่า Crossover ใส่ Michael Jordan กราฟชีวิตของเขาในสนามกำลังพุ่งทะยานสุดขีด แต่ทว่าชีวิตนอกสนามกับสวนทาง เพราะมีปัญหาต่าง ๆ มากมายถาถมไม่ว่าจะเป็นเรื่องวินัยในการซ้อมที่มักจะมาสายเป็นประจำ หรือเรื่องราวที่เข้าไปพัวพันกับแก๊งต่าง ๆ  ไหนจะคดีพกอาวุธปืนและกัญชาอีก จนมีข่าวลือว่าเขาจะถูกเทรดตัวไปอยู่ทีมอื่นบ่อยครั้งทว่าโค้ช Larry Brown ก็เลือกที่จะเชื่อมั่นในตัวของ Iverson เพราะแม้จะมีปัญหาด้านวินัย แต่เมื่อเขาสวมรองเท้าลงสนาม เขาคือนักกีฬาผู้นำที่ทุ่มเทอย่างสุดกำลังเพื่อให้ทีมคว้าชัยชนะอย่างไม่ต้องสงสัย

หากจะบอกว่าชีวิตของ Iverson นั้นจุดไหนคือช่วงเวลาที่พีคสุดของเขา เราขอยกให้ปี 2001 หลังจากเข้ามาอยู่ในลีกได้ 5 ปีเต็ม พร้อมเก็บเกี่ยวสะสมประสบการณ์มาเต็มเปี่ยม Allen Iverson ได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาระดับซูเปอร์สตาร์ของลีก ด้วยลุคที่แตกต่างรอยสัก การแต่งตัวสไตล์ฮิปฮอปที่ผิดแปลกจากนักกีฬาคนอื่น ๆ ทำให้ตอนเริ่มต้นฤดูกาล NBA ได้ออกกฎให้นักกีฬาแต่งกายให้เหมาะสม แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ Allen Iverson แยแส และยังคงทำตามแนวทางของตัวเอง แต่งตัวเหมือนชาวแก๊งฮิปฮอปจนถูกต่อว่าและปรับเงินอยู่เป็นประจำซึ่งก็ไม่ได้มีใครสามารถหาข้อโต้เถียงได้ เพราะเขานั้นทำผลงานได้อย่างสุดยอดทำแต้มเฉลี่ย 31.1 ตลอดทั้งฤดูกาล พาทีมที่เต็มไปด้วยนักกีฬาธรรมดาเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ พร้อมคว้ารางวัล MVP (ผู้เล่นทรงคุณค่าประจำปี)แม้ในรอบชิงเขาไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของทีมอย่าง LA Lakers ที่นำโดย Kobe Bryant และ Shaquille O’neal ได้ ด้วยอาการบาดเจ็บสะบักสะบอม Allen Iverson จึงกลายเป็นราชาไร้บัลลังก์พาทีมไม่ไปถึงฝั่งฝัน
ที่มารูปภาพ คลิก

ผลงานของทีม Philadelphia 76ers ก็ดูจะถอยหลังลงคลองจากทีมลุ้นแชมป์พอ A.I. ไม่อยู่ในสภาพร่างกายที่เหมือนเดิม ก็ทำให้กลายเป็นทีมดาด ๆ จนสุดท้ายเขาถูกเทรดไปอยู่ทีมอื่นและกลายเป็นนักบาสพเนจรอยู่เกือบ 5 ปี กระทั่งสุดท้ายเขาคงคิดว่าคงจะไม่มีวันกลับมาเป็น Iverson คนเดิมได้ จึงขอประกาศยุติการเล่นในปี 2013 ซึ่งทีม Philadelphia 76ers จัดพิธียกเลิกการใช้เสื้อเบอร์ 3 เพื่อเป็นเกียรติให้กับ Iverson อย่างยิ่งใหญ่
ที่มารูปภาพ คลิก

ในปี 2016 Allen Iverson ได้ถูกรับเลือกเข้าไปอยู่ในทำเนียบ Hall of Fame ซึ่งปัจจุบันเขาได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง ไม่สร้างปัญหาให้กับสังคมอีกต่อไป พร้อมยังคงทำงานวนเวียนอยู่ในวงการบาสเก็ตบอลจากการช่วยเหลือของเพื่อนร่วมวงการ และตัวเขาเองคงต้องขอบคุณ Reebok ที่ได้เคยมอบสัญญาตลอดชีวิตให้กับเขา ทำให้แม้จะไม่ได้ร่ำรวยเหมือนแต่ก่อนทว่า Allen Iverson ก็ยังมีเงินใช้แบบกินเปล่าอีกเล็กน้อย

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.unlockmen.com/allen-iverson-story/
เรียบเรียงข้อมูลโดย : จักรพงศ์ 

- Copyright © Yota Phonmai - Blogger Templates - Powered by Blogger - Designed by Johanes Djogan -